พื้นสนามกีฬาในร่ม
พื้นสนามกีฬาในร่มสามารถมีได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับประเภทของกีฬาที่ใช้และงบประมาณในการก่อสร้าง/ดูแลรักษาโดยทั่วไปพื้นสนามกีฬาในร่มจะต้องมีคุณสมบัติหลักคือ:
-
ลดแรงกระแทก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
-
ไม่ลื่น และมีแรงเสียดทานที่เหมาะสม
-
ทนทาน ต่อการใช้งานหนัก
-
ดูแลรักษาง่าย
ประเภทของพื้นสนามกีฬาในร่มที่นิยมใช้
- พื้นไม้เนื้อแข็ง (Hardwood Flooring)
ใช้สำหรับ: บาสเกตบอล, แบดมินตัน, วอลเลย์บอล
วัสดุ: ไม้เมเปิล, ไม้ยางพารา
ข้อดี: รองรับแรงกระแทกดี, สวยงาม
ข้อเสีย: ราคาสูง, ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ
-
พื้นพีวีซี (PVC Sports Flooring)
-
ใช้สำหรับ: แบดมินตัน, ฟุตซอล, ปิงปอง
-
ข้อดี: ติดตั้งง่าย, ลดแรงกระแทก, กันลื่น
-
ข้อเสีย: อายุการใช้งานน้อยกว่าพื้นไม้
-
-
พื้นยางสังเคราะห์ (Rubber Flooring)
-
ใช้สำหรับ: ฟิตเนส, ฟุตซอล, มวย, สนามอเนกประสงค์
-
ข้อดี: กันกระแทกดี, ทนทาน, กันลื่น
-
ข้อเสีย: ราคาปานกลาง-สูง, บางชนิดอาจมีกลิ่นยาง
-
-
พื้นพียู (PU – Polyurethane Flooring)
-
ใช้สำหรับ: ฟุตซอล, วอลเลย์บอล, สนามเอนกประสงค์
-
ข้อดี: เรียบ, ยืดหยุ่นดี, ดูแลรักษาง่าย
-
ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงกว่าพีวีซีและepoxy
-
-
พื้นอีพ็อกซี่ (Epoxy Flooring)
-
ใช้สำหรับ: สนามฝึกซ้อม, สนามกีฬาอเนกประสงค์
-
ข้อดี: เรียบ, ทนต่อสารเคมี ราคาไม่แพง
-
ข้อเสีย: ไม่กันกระแทกเท่าพื้นยางหรือพียู
-