พื้น Polyurethane มีกี่ประเภท
ประเภทของพื้น PU แบ่งออกได้เป็น 3 แบบ
- PU Coating คือ สารโพลียูรีเทน 2 ส่วนผสมกันเป็นฟิล์มสีชนิดกลิ้งบาง ที่มาในรูปแบบของสีทาบนพื้นผิวคอนกรีต มีให้เลือกหลายหลายเฉดสี พบเห็นได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา และโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป ที่ต้องการเน้นเรื่องของ ความสะอาด ความเงาของพื้น ความสวยงาม เป็นต้น
- PU Self-leveling Concrete” คือ พื้นโพลียูรีเทนที่มีความหนากว่าแบบ Coating (ชนิดกลิ้ง) ทำให้สามารถรับน้ำหนักและทนทานต่อแรงกระแทก รวมไปถึงทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบฉับพลัน
- PU Sport Rubber คือ พื้น Polyurethane สำหรับงานสนามกีฬา เป็นระบบเคลือบพื้นยางสังเคราะห์คุณภาพสูงพื้นสนามมีความยืดหยุ่นในตัวสูง จึงลดการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บจากการกระแทกข้อเท้า ข้อเข่า และเท้าของนักกีฬาในระหว่างการเล่นได้ดี
PU Concrete จึงนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายใน โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โรงงานผลิตอาหาร และโกดังเก็บสินค้า โดยพื้นชนิดนี้ได้ผ่านมาตราฐานการรับรองเป็น Hygiene Floor จากสถาบันมาตรฐานสากล ที่สามารถป้องกันความชื้นและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี
PU Coating VS PU Concrete ? ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
PU Coating
ข้อดี
- ใช้งานได้นาน สีและสภาพพื้นผิวไม่สึกกร่อน แม้จะอยู่กลางแจ้ง เพราะมีคุณสมบัติ ทนต่อแสงแดด และรังสี UV ได้เป็นอย่างดี
- มีสีให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย สามารถผสมสีตามความต้องการของลูกค้า
- ราคาถูกกว่าแบบ PU Concrete
ข้อจำกัด
- มีข้อจำกัดในการจัดเตรียมพื้นที่ให้พร้อมก่อนการดำเนินงาน เนื่องจากวัสดุ PU มีความอ่อนไหวต่อความชื้น
- หากไม่มีผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง อาจทำให้เกิดการบวมของพื้น PU และก่อให้เกิดความเสียหายได้
PU Concrete
ข้อดี
- ใช้งานได้นาน สีและสภาพพื้นผิวไม่สึกกร่อน แม้จะอยู่กลางแจ้ง เพราะมีคุณสมบัติ ทนต่อการใช้งานหนัก การกระแทก และการสึกกร่อน
- มีอายุการใช้งานยาวนาน
- สามารถทนอุณหภูมิการใช้งานที่ -40C ถึง 120C
- มีคุณสมบัติ Hygiene Floor ที่ได้รับการรองรับผลการทดสอบ จากสถาบันมาตรฐานสากลแล้วว่า สามารถช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อจำกัด
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของเฉดสีเมื่อโดนรังสี UV จากแสงแดด
- พื้นผิวด้าน สวยงามน้อยกว่าแบบ Coating
- ควรมีผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งให้คำปรึกษาโดยตรง
- ราคาสูงกว่าแบบ PU Coating