พื้นโรงงาน มีกี่ประเภท
สำหรับใครที่กำลังศึกษาสนใจสร้างโกดัง โรงงานผลิต อาจกำลังสงสัยว่าพื้นโรงงานมีกี่ประเภท วัสดุแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งาน ทางเราขอแนะนำพื้นโรงงานทีนิยมในปัจจุบัน
1. พื้นคอนกรีตฟลอร์ฮาร์ดเดนเนอร์
ผงซีเมนต์ผสมวัสดุที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของพื้นผิว ป้องกันพื้นผิวคอนกรีตเป็นฝุ่นผง ทนต่อการขัดสีง่าย ง่ายต่อการทำความสะอาด และสามารถเลือกสีได้ตามจุดประสงค์ของพื้นที่หรือความสวยงามเหมาะสำหรับงานพื้นคอนกรีตทุกประเภท เช่น พื้นโรงงานอุตสาหกรรม พื้นลานจอดรถ พื้นคอนกรีตภายในอาคาร เป็นต้น
การทำงานของฟลอฮาร์ดเดนเนอร์ ทำเหมือนการขัดมันพื้นทุกขั้นตอน แต่ในขั้นตอนก่อนที่จะขัดหยาบด้วยเครื่องขัดพื้นให้โรยผง Floorhard ก่อนตามอัตราส่วนแล้วจึงทำการขัดหยาบ และเมื่อถึงขั้นตอนการขัดมันให้โรยผงฟลอฮาร์ดเดนเนอร์อีกครั้งตามอัตราส่วนที่เหลือแล้วจึงทำการขัดมัน จากนั้นทิ้งให้เซ็ตตัวจนแห้ง
ประโยชน์
ผนึก กันฝุ่น ทำให้ผิวหน้าคอนกรีตมีความแข็ง ป้องกันการก่อให้เกิดฝุ่น ป้องกันการเกิดหลุมรู การเกิดคราบต่างๆ การแตกร้าว เนื่องจากอุณหภูมิ ทำให้พื้นคอนกรีตดูสวยงามตลอดเวลา ทำความสะอาดง่าย ป้องกันการเสื่อมสภาพ ทำให้ด่างส่วนเกินในคอนกรีตเป็นกลาง
ลักษณะของพื้นผิว
สำหรับพื้นคอนกรีตเรียบ ความมันวาวจะเกิดขึ้นภายใน 6-12 เดือน ส่วนพื้นแบบอื่นจะคงสภาพธรรมชาติของมัน ความมันวาวอาจทำให้เร็วขึ้นด้วยการขัดเงาพื้นด้วยสารขัดเงา
2 . พื้นEpoxy
โดยทั่วไปแล้วพื้นอีพ็อกซี่ จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ คือ Epoxy Coating และ Epoxy Self Leveling
พื้น Epoxy Coating
คือ พื้นที่ถูกเคลือบด้วยสีอีพ็อกซี่ความหนาต่ำ นิยมเคลือบที่ความหนา 300-450 ไมครอนหรือ 0.3-0.45 มิลลิเมตร ซึ่งในกระบวนเคลือบพื้นแบบนี้จะใช้ลูกกลิ้งในการเคลือบพื้นนิยมทำการเคลือบ 2 ครั้งหรือการกลิ้งสีอีพ็อกซี่ 2 รอบนั้นเอง สำหรับพื้น Epoxy Coating เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่ต้องรับแรงกดหรือน้ำหนักมากมาย อาทิเช่น พื้นทางเดิน กำแพงโรงงาน พื้นชั้น 2 เส้นและเครื่องหมายจราจร เป็นต้น
Epoxy Coating เหมาะกับพื้นประเภทไหน
- พื้นทางเดิน หรือบริเวณที่ไม่ต้องรับแรงโหลดหนัก
- พื้นโรงงานอุตสาหกรรม
- พื้นอุตสาหกรรม บริเวณลานผลิต
- พื้นบริเวณห้องทำงาน ที่ต้องการความเรียบ และเงา
- ห้างสรรพสินค้า
- ใช้ตีเส้นจราจร หรือสัญญาลักษณ์ต่าง ๆ
- โรงพยาบาล, ห้องแลป, ห้องปลอดเชื้อ, ห้องผ่าตัด
พื้น Epoxy Self Leveling
คือ พื้นที่ถูกเคลือบด้วยสีอีพ็อกซี่ ความหนาปานกลาง-สูง นิยมเคลือบที่ความหนาตั้งแต่ 2 มิลลิเมตรขึ้นไป ซึ่งในกระบวนเคลือบพื้นแบบนี้ จะใช้การติดตั้งด้วยเกรียงปาด และอาศัยทักษะความชำนาญของช่างเป็นพิเศษ ลักษณะเด่นของ พื้นอีพ็อกซี่ ระบบนี้คือ ความสวยงาม และความทนทาน เนื่องจากพื้นที่เกิดจากระบบนี้จะสามารถปรับระดับได้เอง (Self Leveling) และมีความเงางามสูงกว่าสีระบบอื่น ๆ สำหรับพื้น Epoxy Self Leveling เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่ต้องการรับแรงกด หรือน้ำหนัก เช่น พื้นทางเดินที่มีรถโฟล์ทลิฟท์วิ่ง, พื้นฝ่ายผลิต, พื้นสโตร์, โชว์รูมที่ต้องการความสวยงาม เป็นต้น
Epoxy Self Leveling เหมาะกับพื้นประเภทไหน
- พื้นโรงงานอุตสาหกรรม
- พื้นอุตสาหกรรมผลิตอะไหล่รถยนต์, ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
- พื้นอุตสาหกรรมเคมี
- ห้างสรรพสินค้า
- อาคารจอดรถ, ช่องจอดรถพิเศษ
- ลานอเนกประสงค์
- โชว์รูมรถยนต์
- โรงพยาบาล, ห้องแลป, ห้องปลอดเชื้อ, ห้องผ่าตัด
- โรงเก็บเครื่องบิน, โรงจอดรถ
พื้นโพลียูรีเทน หรือ PU (Polyurethane Floor System) เป็นวัสดุเคลือบพื้นที่ถูกออกแบบเพื่อปกป้องผิวคอนกรีต จากการทำลายของน้ำ ความชื้น กรด-ด่าง และสารเคมี คุณสมบัติพิเศษของพื้นโพลียูรีเทน คือ ยอมให้ความชื้นไหลผ่านตัวฟิล์มสีได้โดยไม่เกิดการบวม และมีความแข็งแรงเหมือนพื้นคอนกรีต จึงสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย โดยพื้น PU สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. พื้นพียูแบบปานกลาง PU-MF มีความหนา 3-4 มิลลิเมตร เหมาะกับการใช้งานที่รับโหลดปานกลาง อย่างเช่น พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหาร, เครื่องดื่ม และ Warehouse เป็นต้น มีคุณสมบัติทนทานต่อ กรด-ด่าง สารเคมี และความชื้น สามารถใช้งานรับโหลดของรถเคลื่อนย้ายสินค้าขนาด Capacity 1-2 ตัน ที่สำคัญด้วยความหนาที่มากขึ้น ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพด้าน Mechanic ทนทนต่อการขีดข่วน รับแรงกระแทกได้ดีกว่าเดิม
2. พื้นพียูแบบหนามาก PU-HF มีความหนา 5-10 มิลลิเมตร เหมาะกับการใช้งานพื้นโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเคมี, อาหาร, ลานโหลดสินค้า, Warehouse และ แท่นวางเครื่องจักร เป็นต้น พื้นพียูชนิดนี้เหมาะกับการรับโหลดสูง สามารถใช้งานรับโหลดของรถเคลื่อนย้ายสินค้าขนาด Capacity 2 ตันขึ้นไป ด้วยการเพิ่มความหนาขึ้น จึงทำให้ทนทานต่อการใช้งาน และมีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี
4. พื้น Polishing Concrete
คือเทคโนโลยีการทำพื้นคอนกรีตให้เรียบและเงาขึ้น ด้วยกระบวนการขัดและปัดผิวคอนกรีตด้วยเครื่องขัดพื้นความเร็วสูงกับการใช้ใบขัดหัวเพชร “Metal Diamond” คอนกรีตที่ผ่านการบ่มด้วยสารเคมีพิเศษ Lithium Silicate ซึ่งจะเกิดเกิปฏิกริยาได้คอนกรีตแบบ “Calcium Hydroxide Silicate ทำให้ปูนมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 20-25% และทำให้มีความทนทาน คงทน มีความเงาสูงและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
ประเภทผิวพื้นขัดมัน
ผิวขัดมันที่ได้จะมีลักษณะที่แตกต่างกันซึ่งมาจาก 2 ปัจจัยนี้เป็นหลัก คือประเภทการเตรียมคอนกรีตและขบวดการขัดด้วนใบขัด
ปัจจัยที่ 1 ประเภทของการเตรียมพื้นผิวคอนกรีต โดยมากแล้วผิวคอนกรีตจะทำการเทและขัดมันไว้ ผิวทีได้หลังจากการขัดจะเป็นแบบ “Sand Appearance” ซึ่งจะมีความแข็งแกร่งสูงสุด ผิวแบบนี้เราจะเห็นตามห้างขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น ไทวัสดุ Home Pro , Ikea ผิวที่ได้จะมีความแตกต่างกันไป
พื้นขัดมันจะทำให้คอนกรีตมีคุณสมบัติที่ดีมาก ทั้งคุณสมบัติทางเคมี ทางฟิสิกส์และด้านความคุ้มค่าการลงทุน สามารถปกป้องผิวคอนกรีตจากการใช้งานหนักและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง คุณสมบัติพื้นคอนกรีตขัดมัน ได้แก่
- มีความทนทานต่อการขัดถู (Abrasion Resistance)
- มีความทนทานต่อการขีดข่วน (Scratch Resistance)
- มีความทนทานต่อการเกิดรอนรถ Forklift (Stain Resistance)
- ไม่บวม ไม่ร่อน
- ไม่เกิดการเหลืองขึ้นจากการใช็งาน (Non-Yellowing)
- มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี
- ราคาถูก
- รักษาความสะอาดง่าย
- ผิวเรียบเป็นมันเงา
- ไม่มีกลิ่น
- ไม่เกิดฝุ่น